เม็ดบัวทางภาษาจีนเรียกว่า เก่าซิก, หน่อยซิก
หรือหน่อยผ่องจื้อ
เป็นธัญพืชที่คุณอาจคาดไม่ถึงว่าเจ้าเมล็ดที่คล้ายถั่วนั้น
มีสรรพคุณทางยามากและหลากหลาย
เม็ดบัว อุดมไปด้วยวิตามินเอ วิตามินซี วิตามินอี
มีโปรตีนเป็นส่วนประกอบอยู่ถึงประมาณ 23 เปอร์เซนต์ และมีเกลือแร่ ฟอสฟอรัส
นอกจากนี้ตัวเม็ดบัวยังมีสรรพคุณ บำรุงสมอง บำรุงประสาท บำรุงไต
ช่วยรักษาอาการท้องร่วง และบิดเรื้อรัง
และสรรพคุณพื้นบ้านที่ใช้กันเป็นยาบำรุงเลือด หรือเพิ่มเลือดได้อีกด้วย
จากคุณสมบัติที่ดีเลิศของเม็ดบัว
คนสมัยก่อนจึงนิยมนำเม็ดบัวมาทำอาหารทั้งคาวและหวาน เช่น ข้าวผัดเม็ดบัว,
เม็ดบัวเชื่อม,ขนมหม้อแกงเม็ดบัว, ใส่ในเต้าฮวย เป็นต้น
ถ้านำเม็ดบัวมาปรุงอาหารร่วมกับลำไยแห้ง
จะทำให้สรรพคุณทางยาของเม็ดบัวเพิ่มมากขึ้น
ข้อควรระวังผู้ที่มีอาการท้องผูก ท้องเฟ้อ อาหารไม่ย่อย
ไม่ควรกินไม่ควรปรุงอาหารที่มีเม็ดบัวในภาชนะที่ทำจากเหล็ก
เพราะจะทำให้เม็ดบัวกลายเป็นสีดำ
นอกจากกินเมล็ดสดแล้ว ยังนิยมทำเมล็ดบัวตากแห้งเพื่อใช้เป็นยา
โดยเก็บฝักแก่ (สังเกตุจากผลบัวเปลี่ยนเป็นสีเทาหรือสีดำ)
แยกเอาผลบัวออกจากจากฝัก ตากแดดให้แห้งประมาณ 3 วัน
แล้วกะเทาะเอาเปลือกหุ้มเมล็ดออก ตากแดดให้แห้งดีเก็บไว้ใช้เป็นยา
เมล็ดบัวสดมีวิตามินซีสูง
ส่วนเมล็ดบัวแห้งนั้นมีส่วนประกอบหลักเป็นคาร์โบไฮเดรตถึงกว่าร้อยละ 60
มีโปรตีนสูงเช่นเดียวกับ ถั่วเหลือง ลูกเดือย และข้าวฟ่าง
นอกจากนั้นยังมีฟอสฟอรัส ธาตุเหล็ก และมีแคลเซียมสูง
แต่ร่างกายดูดซึมไปใช้ไม่ค่อยได้
เนื่องจากเป็นแคลเซียมที่อยู่ในรูปของสารประกอบของแคลเซียมออกซาเลต
ทำให้เป็นโรคนิ่วในไตได้
ส่วนดีบัว ที่มีรสชาติขมแต่ก็มีสรรพคุณทางยาสูงมากเช่นกัน
ส่วนใหญ่จะแยกดีบัวออกจากเมล็ดเพื่อนำไปทำยาโดยเฉพาะ
สารสกัดจากดีบัวมีฤทธิ์ในการลดความดันโลหิต
และคลายกล้ามเนื้อเรียบโดยเฉพาะสารเมทิลคอรีพัลลีน
ที่มีฤทธิ์ในการขยายหลอดเลือดที่ไปเลี้ยงหัวใจ
ซึ่งเป็นประโยชน์มากต่อผู้ป่วยโรคหัวใจขาดเลือดเนื่องจากหลอดเลือดตีบตัน
ตามตำราการแพทย์แผนจีนใช้ดีบัว 2-5 กรัม ต้มเอาน้ำดื่ม
สรรพคุณแก้อาการหงุดหงิด นอนไม่หลับ การติดเชื้อในช่องปาก
ช่วยลดความดันโลหิต บำรุงหัวใจ ปอด ไต บำรุงสายตา และ
แก้อาการฝันเปียกได้อีกด้วย
|